Sony Internet TV

คุณสมบัติ ของ Sony Internet TV

             ทีวีและเครื่องเล่นบลูเรย์โซนี่ ที่มาพร้อมกับประโยชน์มากมาย มีคีย์บอร์ดและความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์อื่น ๆ Sony (AMP, BD, TV) สายทีวีขึ้นในขณะที่เรารายงานก่อนหน้านี้จำนวน 4 รุ่น (24", 32", 40"และ 46") และแกน OS ของมันจะขึ้นอยู่กับ Android Apps จะสามารถหา โหลดได้ แอปพลิเคชันที่เป็นที่นิยมเช่น Pandora, Netflix, YouTube,Twitter และอื่น ๆ อีกมากมาย มัลติทาสกิ้ง ในขณะที่ ดูทีวี คุณลักษณะที่สำคัญซึ่ง Sony เรียก Dual View ช่วยให้คุณสามารถดูทีวีในหน้าต่างขนาดเล็กในขณะที่คุณสามารถใช้ Chrome เบราว์เซอร์หรือ app อื่น ๆ ได้

Sony ทีวีอินเทอร์เน็ต จะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้


  - Google ทีวีในตัว
  - ค้นหาได้อย่างลงตัวในโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ตของคุณสำหรับเนื้อหา
  - ท่องเว็บในขณะที่ดูโทรทัศน์ใช้ Dual View
  - อัพเกรดแพลตฟอร์ม Google TV
  - แอปพลิเคชันดาวน์โหลดจาก Android Market (มาในต้นปี 2011)
  - พลังการประมวลผลแบบสุพีเรียกับ Intel Inside
  - ง่ายต่อการใช้ RF QWERTY ปุ่มกดรีโมทด้วยเมาส์ออปติคอลบูรณาการ
  - เชื่อมโยงไปยังโทรศัพท์มือถือเลือก (มาตกนี้)
  - Wi - Fi
  - HDMI

ข้อมูลเพิ่มเติม

3D in Full High Definition พบกับประสบการณ์แบบ 3D ที่สมบรูณ์แบบ ด้วยเทคนิค Frame sequential method

โดยการใช้เทคโนโลยี่ระดับสุดยอดที่เรียกว่า Frame sequential method เครื่องรับโทรทัศน์ 3D HDTV ของโซนี่จึงสามารถให้ภาพ รายละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p สำหรับดวงตาแต่ละข้าง (ซ้าย-ขวา) ในการรับภาพเพื่อ ภาพแบบ 3D ที่คมชัดและสดใสอย่างแท้จริง

X-Reality TM Pro Engine ให้ความใสกระจ่างสุดยอดจากทุกๆ พิกเซล

ด้วยชิปประมวลผลภาพใหม่ล่าสุดที่โซนี่วิจัยและพัฒนา คุณย่อมจะได้รับชมภาพที่สดใส คมชัดและดูมีชีวิตดุจชีวิตจริง ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์จากแผ่นบลูเรย์ 1080p หรือภาพจากเว๊ปที่มีรายละเอียดต่ำก็ตาม ชิปที่กล่าวมาคือ X-Reality TM Pro Engine ระดับสุดยอดจาก โซนี่ ที่จะวิเคราะห์ทุก ๆพิกเซลในแต่ละฉาก ต่อจากนั้นจะใช้กระบวนการปรับแต่งอันซับซ้อนเพื่อให้ภาพมีคุณภาพสูงสุด เพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสกับภาพที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

Monolithic Design ด้วยรูปทรงอันน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดเครื่อง

รูปลักษณ์ของการออกแบบมุ่งที่จะทำให้เครื่องรับโทรทัศน์เป็นเหมือนแผ่นกระจก สีเข้มแผ่นเดียวที่ไม่มีสีอื่นเจอปนเมื่อปิดเครื่อง และเมื่อเปิดใช้งาน ภาพก็จะปรากฏอย่างสว่างใส และสวยสดด้วยสีสัน สิ่งที่มีบทบาทสำคัญก็คือแผงจอ Opti Contrast ของโซนี่ การออกแบบให้มีรูปทรงเพรียวบาง ยังประสานกลมกลืน กับชุดอุปกรณ์ A/V ของโซนี่ ทำให้ทั้งหมดกลายเป็นระบบที่ดูลงตัวเป็นชุดเดียวกันโดยสมบรูณ์

S-Force Front Surround 3D  ด้านเสียงเซอร์ราวด์ 3D Sound

S-Force Front Surround 3D เป็นระบบเสียงสมบรูณ์แบบที่ถูกติดตั้งอยู่ในเครื่องรับโทรทัศน์ BRAVIA ระบบนี้จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ด้านเสียง 3D โดยส่งเสียงให้พุ่งมาหาตัวผู้ชม และจำลองลักษณะเสียงแบบ 5 channel ให้อย่างครบถ้วน โดยมีบริเวณ “sweet spot” ที่กว้างมากพอสำหรับผู้ชมทุกท่าน

Samsung Galaxy Tab 10.1

ในตลาดสมาร์ทโฟนเเละเเท็บเล็ตนั้น Samsung ถือว่าออกโปรดักส์มาได้ดีเเละตรงใจผู้บริโภคในไทยมากที่สุด โดยจุดเด่นนั้นก็ไม่พ้นกับเรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ในตัวสินค้าที่เเตกต่างกับเจ้าอื่นพอสมควร โดยเทคโนโลยีหน้าจอที่เรียกว่าทำให้ภาพที่สีดูไม่สวยกลับกลายเป็นสวยไปได้ ด้วย Super AMOLED ทำให้รู้สึกเหมือนกับเราดูภาพที่สีสดเเละคมชัดเหมือนดูในโทรทัศน์คุณภาพสูง ก็ไม่ปาน เเละราคาที่เรียกว่าถูกที่สุดในเเง่เทคโนโลยีที่ให้กับสินค้าที่ได้ ทำให้ Samsung ครองตลาดในไทยไปได้ไม่ยากเย็นนัก

ในปีที่เเล้ว Samsung เองก็มีโปรดักส์ในสายเเท็บเล็ตเหมือนกัน ก็คือตัว Samsung Galaxy Tab ซึ่งมีหน้าจอขนาด 7 นิ้ว เบา พกพาง่าย เเถมยังพกตัวประมวลผลที่มีความเร็วสูงมา ซึ่งก็ถือว่าเป็นเเท็บเล็ต Android ที่ประสบความสำเร็จตัวหนึ่งในปีที่เเล้ว เเต่ Samsung ก็ไม่ได้หยุดความสำเร็จเเต่เพียงเเค่นั้น ในยุคที่ Google เอาจริงกับตลาดเเท็บเล็ตเเละออก Android Honeycomb ที่ปรับเเต่งสำหรับเเท็บเล็ตเฉพาะ ก็ต้องมาดูกันว่า Samsung จะดึงศักยภาพมาใส่ไว้ใน Samsung Galaxy Tab 10.1 นี้ได้อย่างไรกันบ้าง

Hardware

สำหรับชุดที่เราได้มารีวิวนี้ประกอบด้วย เครื่อง Samsung Galaxy Tab 10.1 ,สาย USB ที่ใช้พอร์ทเฉพาะของ Samsung เเละ Adapter ที่เสียบสาย USB ดังนั้นตัวนี้จึงไม่มีพอร์ท micro USB มาให้ครับ

ตัวเครื่องนั้นไม่มีปุ่มกดใดๆ เลยด้านหนา ขอบสีขาวนั้นเป็นขอบจากพลาสติก การออกเเบบนั้นดูสวยงามดีสำหรับด้านหน้า เเละตัวนี้ทาง Samsung บอกว่าหน้าจอใช้พาเนลเเบบ PLS (ไม่ใช่ IPS นะ) ส่วนตัวเมื่อเทียบกับเเท็บเล็ตเจ้าอื่นๆ เเล้วจุดเด่นก็อยู่ในเรื่องคอนทราสของสีที่สดตามสไตล์ของ Samsung เเละความสว่างของจอที่มีมากกว่าเเท็บเล็ต Honeycomb ตัวอื่นๆ อย่างชัดเจน

กล้องความละเอียดสองล้านเเบบ fix focus ที่เเท็บเล็ต Honeycomb ทุกตัว

ด้านหลังมาเป็นเเบบพลาสติกเเบบเงาสีขาวล้วน ทุกส่วน มีโลโก้ Samsung อยู่ตรงกลาง ด้านบนเเซมด้วยสีเทาข้างหลังกล้องขนาด 3 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash

ปุ่มเปิดปิด เพิ่มลดเสียง ช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ช่องใส่ซิม อบู่บริเวณด้านบนทั้งหมด ปุ่มทุกอย่างสังเกตเเละกดได้ง่าย ไม่มีปัญหาในการใช้งานใดๆ

ด้านข้างนั้นเป็นลำโพงทั้งสองด้าน ตำเเหน่งการวางเหมือนกับ BlackBerry Playbook

ด้านล่างมีเพียงเเต่พอร์ทเอาไว้ต่อเป็น USB เท่านั้นเพื่อโอนข้อมูลหรือชาร์จไฟ ข่าวดีก็คือมันสามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ท USB ได้โดยไม่ต้องพึ่งอเเดปเตอร์ (เเท็บเล็ตบางเจ้าจะมีช่องจ่ายไฟชาร์จต่างหาก อย่าง Acer Iconia Tab A500) ข่าวร้ายคือมันชาร์จได้ช้ามาก สุดท้ายเเล้วก็ชาร์จผ่านอเเดปเตอร์จะดีสุด

ความบางของเครื่อง บางน้อยกว่า iPhone 4 ที่ว่าบางมากเเล้วเล็กน้อย

โดยสรุปเเล้วจุดเด่นด้านฮาร์ดเเวร์ของ Samsung Galaxy Tab 10.1 อยู่ที่เรื่องความบางเเละน้ำหนัก โดยทำได้ไล่เลี่ยกับ iPad 2 ซึ่งในเรื่องน้ำหนักนั้นถือว่าทำได้เบากว่า iPad 2 เสียอีก (น้ำหนักของ Galaxy Tab 10.1 อยู่ที่ 565 กรัม ขณะที่ iPad 2 อยู่ที่ประมาณ 610 กรัม) เเต่ก็มากับเรื่องวัสดุที่เป็นพลาสติกทั้งหมดจึงมีน้ำหนักเบาได้เช่นนี้ คนที่สงสัยในเรื่องความทนทาน ผมว่าตัว Galaxy Tab 10.1 ก็ผ่านมาตรฐานความเเข็งเเรงสำหรับการใช้งานทั่วไป อาจจะไม่เเข็งเเรงเหมือน iPad 2 หรือ Acer Iconia Tab A500 ที่ทำมาจากอลูมิเนียม คะเเนนด้านการพกพาสำหรับ Galaxy Tab 10.1 ก็คงให้เต็มไปได้เเบบไม่ยากเพราะเป็นเเท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้วที่เบาที่สุดในโลกขณะนี้ ถือใช้งานได้สบายๆ ไม่มีปัญหาเหมือนเเท็บเล็ต Honeycomb ตัวอื่นๆ

Honeycomb TouchWiz UX

Samsung Galaxy Tab 10.1 นั้นถือเป็น Android Honeycomb ตัวเเรกที่มีส่วนครอบอินเตอร์เฟซเรียกเกือบทุกส่วน ซึ่งทำให้ประสบการณ์การใช้งาน Honeycomb บน Samsung Galaxy Tab 10.1 นั้นเเตกต่างกับเจ้าอื่นๆ อย่างชัดเจน

สังเกตได้ว่าตัวซอฟเเวร์นั้นยังคงเอกลักษณ์ ของ TouchWiz เอาไว้ไม่ว่าจะเป็นฟอนต์ เเถบเเสดงตำเเหน่งหน้าจอด้านบน เห็นเเค่นี้ก็รู้ได้เลยว่าเป็นซอฟเเวร์จาก Samsung จุดสังเกตอาจจะเห็นว่ามีปุ่มที่ 4 เพิ่มมาทางด้านซ้าย นั้นคือปุ่มจับภาพบนหน้าจอนั่นเอง เมื่อกดเเล้วจะมีเสียงเเชะเหมือนถ่ายรูป เเละไอคอนรูป Caret [ ^ ] นั้นเอาไว้เรียก Mini Apps ซึ่งจะกล่าวต่อไป

เนื่องจากตัว Samsung Galaxy Tab 10.1 นั้นมาเป็น Honeycomb 3.1 เเล้วจึงสามารถขยายขนาด widget บางอันได้ Socia Hub ก็มีมาเหมือนเดิมเป็นเอกลักษณ์ของ Samsung

Launcher นั้นด้านล่างมีการเเสดงหน้าเหมือนกับตัว TouchWiz บนสมาร์ทโฟน (Hoenycomb ปกติไม่มี) ตัว Caret ตรงเเถบด้านล่างเมื่อกดเเล้วก็มีมี Mini Apps ขึ้นมา เเอพทั้ง 6 ตัวนี้ถูกกำหนดมาตายตัวเเล้วไม่สามารถเปลี่ยนได้

Mini Apps ตัวเเรกเป็น Task Manager ซึ่งสามารถคิลเเอพได้ จะเห็นว่าเเรมทั้งหมดนั้นมี 724 MB ใช้ไปซักพักก็เกือบเต็มเหมือนกัน (เคยขึ้นไปเกือบ 700 เม็ก) เเสดงให้เห็นว่ามีการจองทรัพยากรในระบบค่อนข้างมาก เเละความเร็วในการใช้งานถือว่าช้าที่สุดในตระกูลเเท็บเล็ต Honeycomb ทุกตัว ไม่ค่อยสมูธเท่าไหร่เเต่ก็ใช้งานได้ไม่มีติดขัด

พวก Mini Apps ก็อย่างพวกปฏิทิน ตัวเล่นเพลง เเอพจดโน้ต เครื่องคิดเลข ซึ่งก็เป็นเเอพที่เราใช้งานบ่อยๆ อยู่เเล้ว ตรงนี้ก็ดูคล้ายๆ กับการพินเเอพที่ใช้บ่อยๆ เอาไว้ให้เรียกใช้ได้ง่าย

ย้อนกลับมาดูส่วน Notification กันบ้าง สไตล์ยังคุ้นๆ เหมือนเดิมกับตัวออพชั่นโทนสีเขียวตามเเบบ TouchWiz ซึ่งสามารถเลื่อนซ้ายขวาได้ มีโหมด Airplane ซ่อนไว้อยู่

ตัว Browser ยังเป็นเเบบ Stock Honeycomb เเต่เเต่ง theme ให้เข้ากับ TouchWiz จะเห็นมีการเอียงเครื่องเเบบใหม่ โดยการกดนิ้วสองนิ้วไว้ที่จอเเล้วเอียงเข้าเอียงออกจากตัว เพื่อซูมเข้าซูมออกได้ การเล่นเว็บส่วนใหญ่ทำได้ใกล้เคียงกับ PC 90%

คีย์บอร์ดนั้นเป็นตัวเฉพาะของ Samsung เลย์เอาท์ภาษาไทยนั้นอาจจะดูไม่สวยงามนัก เเต่ก็ใช้งานสะดวกดีเพราะไม่ต้องคอยกด shift เพื่อดูตัวอักษรที่ซ่อนไว้

ปฏิทินของ Samsung Galaxy Tab 10.1 นั้นเรียกว่าทำมาได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับทุกเจ้าเลยก็ว่าได้ สามารถซิงค์ปฏิทินบน Facebook ได้ รวมไปถึงเลย์เอาท์ ตำเเหน่ง ก็ทำออกมาให้มองเห็นข้อมูลในปฏิทินได้ง่าย ฟังชั่นการเตือนอีเวนท์ซ้ำในปฏิทินค่อนข้างครอบคลุมกับการนัดหมาย ไม่ว่าจะเป็นทุกวันทำงาน (จ-ศ) ทุกสัปดาห์ที่กำหนดของเดือน ทุกสัปดาห์

เเอพกล้องถ่ายรูปนั้นก็ถูกปรับเเต่งมาเช่นกัน เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ มาพอสมควร เเต่ก็เอาไว้ถ่ายเล่นสนุกๆ ได้ บวกกับน้ำหนักที่เบาทำให้ไม่คิดหนักมากเวลาจะยกขึ้นมาถ่ายนัก

การรวมคอนเเทคสามารถทำได้ เเต่ต้องทำเเบบเเมนวล

การใช้งาน Email นั้นเป็นตามมารฐานของอีเมล์บน Honeycomb คือสนับสนุน Exchange Active Sync เเละ POP3 ส่วน Gmail นั้นก็ไปเป็นเเอพเเยกต่างหาก การเเสดงผลทำได้เหมือนกับอ่านบน PC ทั้งฟอร์เเมทเเละรูปเเนบต่างๆ

มีไฟล์ Manager มาในตัว สะดวกดีมาก หน้าตาก็สวยงามน่าใช้ดี

เเอพ Music นั้นสามารถเลือกเล่นเพลงตามโฟลเดอร์ได้ (Honeycomb ทำไม่ได้) เเถมยังมีอีควอไลเซอร์ให้ปรับด้วย

Gallery อันนี้มาตามมาตรฐาน

เรื่อง GPS ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหา จับสัญญาณได้เร็วมาก A-GPS เเละ GPS ใช้งานได้ร่วมกัน

เเอพเมโม สามารถใช้พิมพ์ หรือเป็นปากกาลากไว้วาดรูปก็ได้

ตัว Polaris Office ใหม่ หน้าตาไฉไลกว่าเก่า เหมาะกับเอาไว้ดูมากกว่าเเก้นะ คอนเทนท์ต่างๆ ดูได้ชัดเจนเเละหลากหลายสนับสนุนไฟล์อย่าง xlsx หรือ docx เเล้วด้วย

มี Samsung Apps ที่มีเเอพฟรีๆ ให้โหลดกัน อย่างเเอพนี้ใน Android เสียเงินเเต่ใน Samsung Apps ให้โหลดฟรี ก็ดีเหมือนกัน อีกอย่างเป็นมาร์เก็ตของ Samsung โดยตรงไม่มีลิงค์ไป Android Market ;D

ตัวนี้เป็นรุ่น 16 GB เป็น System Partition ไปซะ 3 GB ที่เหลือ 13 GB สามารถเอาไว้ลงเเอพหรือเก็บข้อมูลอื่นๆ รวมกันได้เลย (ต่างกับ Android ปกติที่เเยก ROM กับพื้นที่เก็บไฟล์อย่างรูปถ่าย เพลง ไว้เเยกกัน) ดังนั้นพื้นที่เเอพเหลือๆ อยู่เเล้ว

Social Hub นั้นเป็นการรวมข้อมูล Socia Network เเละอีเมล์ต่างๆ โดยเเบ่งเป็นสองหมวดคือ feed เอาไว้รับข้อมูลใหม่ๆ ส่วน Message จะเป็นเกี่ยวกับพวกอีเมล์, Facebook Chat, DM ของ Twitter เป็นต้น

การเล่นไฟล์วีดีโอก็เล่นเเบบ HD สบายๆ ในฟอร์เเมท MP4 สามารถเล่นไฟล์ AVI ได้เเต่ต้องใช้เเอพฉพาะเปิดเนื่องจาก NVIDIA Tegra 2 สนับสนุนการถอดรหัสเพียง mp4 เเละ 3gp ท่านั้น

ส่วนเรื่องเเบตเตอรี่นั้น ลองทดสอบเเบบรันวีดีโอวน (ใช้เงื่อนไขกับที่เทสบนมือถือ) ก็พบว่ารันได้ 7 ชั่วโมง 19 นาที ถ้าใช้งานปกติก็อยู่ได้สองวันเป็นอย่างต่ำครับ เเต่ถ้าเล่นหนักๆ ก็วันเดียวอย่างการทดสอบว่าใช้งานหนักติดต่อกันได้ประมาณ 7 ชั่วโมงนิดๆ

การโอนไฟล์ต่างๆ นั้นต้องทำผ่าน Kies เเต่หลังคอนเนคไปนานหลายสิบนาทีก็ยังคงหมุนติ้วอยู่ – -…

Samsung Galaxy Tab 10.1 Camera Shot (คลิกเพื่อดูรูปขนาดเต็ม)

สรุป

อยากขอให้ลองเล่นกันก่อนสำหรับ Samsung Galaxy Tab 10.1 เพราะจุดเด่นของมันนั้นโดดเด่นมากทั้งซอฟเเวร์ที่ดูสวยงามน่าใช้ เป็นเเท็บเล็ตขนาด 10 นิ้วที่เบาที่สุดในตอนนี้ (สิงหาคม 2011) เป็นจุดขายที่น่าดึงดูดมากสำหรับเเท็บเล็ต Honeycomb ในตอนนี้ เเต่ว่าก็เเลกกับความสมูธของ Samsung Galaxy Tab 10.1 นั้น สมูธน้อยที่สุดในบรรดาเเท็บเล็ต Honeycomb ทั้งหลายทั้งปวง (สมูธน้อยกว่า Samsung Galaxy Tab ตัวเเรกเเน่นอน)

อีกทั้งตัว Samsung Galaxy Tab 10.1 นั้น ผูกการโอนถ่ายไฟล์ไว้กับซอฟเเวร์ Kies ที่ยังมีปัญหาในการเชื่อมต่อเครื่องอยู่มาก ซึ่งปัญหานี้ Samsung ก็น่าจะออกมาเเก้ไขออกซอฟเเวร์ Kies มาให้เสถียรกว่านี้ เพราะ Samsung Galaxy Tab 10.1 ไม่สามารถโอนไฟล์ได้เหมือน USB Mass Storage ได้เหมือนกับเเท็บเล็ต Honeycomb ตัวอื่นๆ เเละปัญหาเรื่องความร้อนพอสมควร ก็เป็นข้อจำกัดของฮาร์ดเเวร์เล็กน้อยเพราะฝาหลังทำมาบางมาก

หลายๆ จุดซอฟเเวร์ Samsung ทำมาให้เเบบถูกใจผู้ใช้ดี ไม่ว่าจะเป็นพวก File Manager หรือ Music ที่สามารถเล่นเพลงตามโฟลเดอร์ได้ โดยปกติของ Honeycomb จะหาเพลงจากตามเเท็กเท่านั้น

ดูเหมือนกับว่า Samsung Galaxy Tab 10.1 สามารถเป็นเเท็บเล็ต Android Hoenycomb ที่ดีที่สุดเเห่งปีได้ ถ้าเพิ่มความสมูธของ TouchWiz มาให้เท่ากับเเท็บเล็ต Honeycomb ของคู่เเข่ง (ไม่ต้องถึงขั้นสมูธกว่าหรอก) เเละในฐานะที่ทำให้ตัว Samsung Galaxy Tab 10.1 ที่ต้องซิงค์ผ่าน Kies อย่างเดียวเพื่อโอนข้อมูลเเล้ว ซอฟเเวร์ Kies ควรจะทำมาให้เสถียรมากกว่านี้เพราะ Samsung Galaxy Tab 10.1 จะไม่สามารถโอนข้อมูลผ่านสาย USB ได้เลยถ้าไม่มี Kies

เเต่โดยรวมๆ ถ้าเทียบกับคู่เเข่งเเล้ว ความเบาเเละความสวยงามของซอฟเเวร์ก็อาจจะทำให้ลืมหรือยกโทษข้อเสียไปได้บ้าง เหมือนกัน ซึ่งราคาคาดว่าจะเปิดมาสำหรับรุ่น Wi-Fi ที่ 14,900 บาทเเละ 3G นั้นอยู่ที่ 18,900 บาท ถ้าอยากได้เเท็บเล็ตที่บาง เบา(มาก) พกพาสะดวก เเละไม่สนเรื่องความลื่นมากนัก ไม่สนเรื่องวัสดุ เเละไม่หงุดหงิดกับตัว kies ที่มีปัญหาจุกจิก เเละมีความหวังว่า Samsung จะรีบออกมาเเก้เร็วๆ นี้ ก็สามารถซื้อตัวนี้ได้ครับ (จริงๆ เเล้วน่าจะมีวิธีเเก้ปัญหา เเต่อยากลองมองในมุมขอผู้ใช้ทั่วไปบ้าง)